古时的人们,不管是种稻还是打猎,都是在靠天吃饭,能不能吃饱都看老天爷的眼色。要是遇到干旱这种影响范围大、持续时间长的自然灾害,人们便自然而然地开始乞求老天爷。在中国,就连贵为天子的皇上也要设立祭坛给龙王爷下跪。那么同样是农业大国的泰国又有什么特别的求雨仪式呢?

ประเพณีแห่นางแมวเป็นพิธีกรรมขอฝนของเกษตรกรไทยจัดขึ้นทั้งในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงหนือ เมื่อใกล้ฤดูเพาะปลูกแล้วแต่ฝนยังไม่มาหรือมาล่าช้ากว่าปรกติ ส่งผลให้ข้าวในนา พืชในสวนขาดน้ำหล่อเลี้ยง ให้ผลผลิตไม่ได้เต็มที่ ชาวนา ชาวไร่ก็จะจัดพิธีแห่นางแมวขอฝนที่ทำสืบต่อกันมาด้วยความเชื่อที่ว่า หากทำพิธีแห่นางแมวแล้ว อีกไม่ช้าฝนก็จะตกลงมา
抬母猫求雨仪式是泰国中部和东北部的一种仪式。如果到了农耕季节还迟迟不下雨的话,会使得水稻、果园的植物脱水并减少产量。因此农民们就会举行抬母猫求雨仪式,因为大家都坚信举行仪式之后要不了多久,就会下雨。

 

สมัยโบราณนั้น เชื่อกันว่าที่ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดความแห้งแล้งไปทั่วนั้น มีอยู่หลายสาเหตุ เช่น ดินฟ้าอากาศแปรปรวน ผู้คนย่อหย่อนศีลธรรม ผู้ปกครองไม่อยู่ในทศพิศราชธรรม และที่ใช้แมวแห่เพื่อขอฝนนั้น ก็มาจากความเชื่อกันว่า แมวเป็นสัตว์ที่กลัวฝน กลัวน้ำ หากฝนตกเมื่อใดแมวจะร้อง  คนโบราณถือเคล็ดว่า ถ้าแมวร้องแสดงว่าฝนกำลังจะตก
古时候,人们相信下雨这件事是要严格按照季节来的,如果没有按照季节下雨,那一定是出于以下几种原因:要么是天象出现了异常、要么是有人道德败坏、要么就是人的德行不够好。而抬母猫求雨则是因为人们相信,猫是怕雨、怕水的动物,每次一要下雨猫就会叫。因此古时候的人就相信,如果猫叫了,那么就说明要下雨了。

บ้างก็เชื่อว่า แมวนั้นเป็นตัวแทนของความแห้งแล้ง หากเมื่อใดแมวถูกสาดน้ำจนเปียกปอนก็เท่ากับเป็นการขับไล่ความแห้งแล้งออกไปจากเมือง เมื่อบ้านเมืองเกิดความแห้งแล้งผิดธรรมชาติ จึงใช้กลอุบายให้แมวร้องออกมา ด้วยการนำแมวมาใส่กระบุงหรือตะกร้าแล้วแห่ไปรอบๆ หากขบวนแห่ผ่านหน้าบ้านใครก็ให้สาดน้ำใส่แมว เพื่อให้แมวร้องออกมา บ้างก็เชื่อว่า แมวเป็นสัตว์ที่มีอำนาจลึกลับสามารถเรียกฝนได้
也有的说法认为猫是干旱的象征,因此如果猫全身湿透了的话,也就意味着赶走了干旱。因此当发生了干旱这种异象的时候,人们就会把猫装进篮子或筐子,一圈一圈的围着村子转,等着猫叫出声来。抬母猫的队伍走到哪家门口,哪家的人就都要出来给猫身上洒水,这样猫才会叫。也有的人相信,猫有能够招雨的神秘力量。

 

ด้วยเหตนี้เมื่อฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกษตรกรก็จะนัดหมายเตรียมจัดพิธีแห่นางแมวขึ้น โดยคัดเลือกแมวลักษณะดีสายพันธุ์สีสวาด เพศเมีย ๑ – ๓ ตัว ใส่กระบุงหรือตะกร้าออกแห่ไปรอบๆ หมู่บ้าน ฝนก็จะตกลงมาภายใน ๓ วัน ๗ วัน สาเหตุที่ต้องเลือกแมวสีสวาดก็เพราะคนโบราณมองว่าขนสีเทาคล้ายกับสีเมฆฝน บางแห่งอาจจะใช้แมวดำแทน
因此,当雨水没有按时降下的时候,农民们就会聚在一起举行抬母猫求雨仪式。人们会选择一两只体质良好、毛色杂灰的母猫,装进篮子或筐子里,然后抬着围着村子转,那之后的两三天内,雨水就会按时降下。选择毛色杂灰的猫的原因在于古时候人们觉得灰猫看起来很像乌云,有些地方的人们也会用黑猫代替。

ในระหว่างที่แห่นางแมวจะมีคนทำหน้าที่ร้องเพลงเซิ้ง ตีเกราะเคาะไม้เพื่อให้เกิดจังหวะสนุกสนานไปด้วย เนื้อหาการเซิ้งก็จะบรรยายถึงความแห้งแล้ง และอ้อนวอนให้ฝนตกลงมา  ขบวนแห่นางแมวจะเคลื่อนไปทั่วทุกหลังคาเรือน โดยมีกติการ่วมกันว่า ขบวนแห่นางแมวไปถึงบ้านใคร บ้านนั้นจะต้องเอาน้ำสาด
在抬母猫求雨的过程中,有人负责唱歌,歌词都是在描述干旱的情景以及乞求老天下雨,除了唱歌之外,还有人负责打节奏,整个仪式也颇有趣味。抬母猫求雨仪式会走遍村子里的每一户人家,因此也有了走到哪户人家,哪户人家就必须出来给猫洒水的规则。

 

จะเห็นได้ว่า ในอดีตมนุษย์ต้องพึ่งพาธรรมชาติอยู่เสมอในการเพาะปลูก เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมเกษตรกรรมที่ต้องอาศัยน้ำ ฝนเป็นปัจจัยหลักในการเพาะปลูก และเนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีระบบชลประทาน หรือฝนเทียม น้ำฝนจึงเป็นสิ่งเดียวที่ธรรมชาติมอบให้ ช่วยต่อชีวิตให้กับพืชผลการเกษตรในนาไร่ ถ้าปีไหนฝนฟ้าไม่เป็นใจ หรือมาล่าช้ากว่าปรกติ เพราะเพาะปลูกก็จะได้ผลไม่ค่อยดี หรือให้ผลไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกษตรกรจึงต้องจัดพิธีแห่นางแมวขึ้นเพื่อขอฝน
由此可见,古时候,人类的农业种植总是要依靠大自然。古时候泰国的农业种植因为没有水利灌溉系统,雨水就是上天唯一的恩赐,能够给予农作物生命。如果哪个年份,雨量不顺心或是迟迟不下雨,农作物就会产量不好甚至大面积减产。也是因为这个原因,泰国农民们才必须要抬母猫求雨。

翻译后记:

随着人们对大自然的更加了解以及水利灌溉系统的大力建设,泰国人民的抬母猫求雨仪式更多的体现的是对大自然的敬畏。而且,因为淋湿猫猫很容易让猫猫生病甚至死亡,近年来的求雨仪式中,人们已经开始慢慢不再使用真猫,而用玩偶代替,甚至连日本机器猫哆啦A梦都客串了一回求雨神猫呢!

声明:本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容,转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点,仅供参考。如有不妥之处,欢迎指正。