了解泰国文化不可错过的泰国“邓丽君”:民谣皇后普万鹏•东詹
Pumpuang Duangjan,她是泰国音乐史上的一个传奇,了解泰国文化的朋友一定不陌生!尽管她已离开我们近30年,今日的许多影视作品、音乐、综艺中仍有她的元素,打动人们的不仅是她甜美的外表与歌喉,更是她短暂、坎坷却励志的人生,一起来了解下这位泰国“邓丽君”吧!顺便告诉大家,想要了解她的话,可以去看看电影《月亮歌女》,一部非常细腻感人的电影!
(电影《月亮歌女》剧照,这位女主角相当眼熟奥,出演了很多与泰国传统文化有关的电影,一部非常不错的传记电影,值得推荐)
(Pumpuang Duangjan本人,无可替代)
พุ่มพวง ดวงจันทร์" หรือชื่อจริงว่า "รำพึง จิตรหาญ" มีชื่อเล่นที่ทุกคนรู้จักกันดีว่า "ผึ้ง" เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ที่บ้านหนองนกเขา ตำบลไพรนกยูง อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ก่อนจะไปเติบโตที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี "ผึ้ง" เป็นลูกสาวคนที่ 5 ในพี่น้องทั้งหมด 12 คน ของนายสำราญ จิตรหาญ และนางเล็ก จิตรหาญ ซึ่งประกอบอาชีพทำไร่อ้อย
Pumpuang Duangjan,原名 Rampueng Chitharn ,她还有一个人尽皆知的小名叫做 Pueng(蜜蜂)。1961年8月4日,Pueng 出生在猜纳府汉卡县 Phri Nok Yung 地区的 Ban Nong Nok Khao,之后她在素攀武里府的宋披侬县长大。Pueng在12个兄弟姐妹中排行第5,父亲名叫 Samran Jitharn,母亲名叫 Lek Jitharn,从事着种植甘蔗的工作。
ชีวิตวัยเด็กของ "ผึ้ง" ค่อนข้างลำบาก เพราะครอบครัวของเธอมีฐานะยากจน "ผึ้ง" ได้เรียนเพียงชั้น ป.2 ก็ต้องออกจากโรงเรียน และไปช่วยเก็บผัก หาดอกไม้ป่า หาบไปขายตามโรงงาน เพื่อมาเลี้ยงน้อง ๆ และครอบครัว แม้ "ผึ้ง" จะอ่านหนังสือไม่ออก แต่โชคดีที่ "ผึ้ง" มีพรสวรรค์อย่างหนึ่งติดตัวมา นั่นคือการร้องเพลง ตั้งแต่เด็ก ๆ "ผึ้ง" มักจะสมัครประกวดร้องเพลงตามงานต่าง ๆ โดยใช้ชื่อว่า "น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย" ตระเวนเดินสายกวาดรางวัลทั้งในระดับอำเภอ ข้ามอำเภอ จนถึงข้ามจังหวัด จนเมื่ออายุได้ 10 ขวบ ก็ได้มาอยู่กับวงดนตรีของ "ดวง อนุชา" ที่กรุงเทพฯ
Pueng 的童年生活非常艰辛,因为家境贫困,为了抚养弟妹和家庭,她才上完小学二年级就不得不辍学,帮助家里摘菜、找野花,然后背到工厂里去卖。尽管 Pueng 不会读书认字,但幸运的是 Pueng 也有一项天赋傍身,那便是歌唱。她从小便用 “甘蔗地里的小蜂蜜”这个名字,报名参加了许多歌唱比赛,在县级比赛中横扫各种奖项,随后从全县比赛升至了全府比赛,直到10岁的时候,她得以前往曼谷进入 Duang Anucha 的乐团。
(《月亮歌女》对其早年经历的描写)
จนเมื่อ "ผึ้ง" อายุได้ 15 ปี ได้ขึ้นร้องเพลงที่วัดทับกระดาน และความสามารถเกิดไปเตะตา "ไวพจน์ เพชรสุพรรณ" นักร้องลูกทุ่งชื่อดังจึงเมตตารับ "ผึ้ง" เป็นบุตรบุญธรรม และพาไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ครั้งนั้น "ผึ้ง" เริ่มเข้าสู่เส้นทางเพลงลูกทุ่ง ไวพจน์จะแต่งเพลง "แก้วรอพี่" และอัดเสียงชุดแรกให้ "ผึ้ง" ในนามของ "น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ"
Pueng 15岁时,来到 Thap Kradan 寺唱歌,她的能力十分出众、引人注目。著名民谣歌手 Waiphot Phetsuphan 因同情 Pueng 的遭遇因将收其为养女,并把她带到了曼谷。这次经历是 Pueng 走上民谣音乐路线的开端,随后 Waiphot 为其创作了歌曲<แก้วรอพี่>(阿娇等着哥哥),并首次以“素攀府蜂蜜”的名字为其录音。
ขณะที่อยู่กับวงของ "ไวพจน์" นั้น "ผึ้ง" ได้รู้จักกับ "ธีระพล แสนสุข" ซึ่งกลายเป็นแฟนคนแรกของ "ผึ้ง" ก่อนที่เธอจะแยกตัวมาเป็นหางเครื่องและนักร้องให้กับ "ศรเพชร ศรสุพรรณ" และย้ายไปอยู่กับ "ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด" จนปี พ.ศ. 2519 "มนต์ เมืองเหนือ" ได้รับ "ผึ้ง" ไว้เป็นลูกศิษย์ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "พุ่มพวง ดวงจันทร์" และผึ้งก็ได้ร้องเพลง "รักไม่อันตรายและรำพึง" ก่อนจะตั้งวงดนตรีของตัวเอง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก
在 Waiphot 乐团期间,在 Phuen 她离开乐团和 Sonphet Sonsuphan 一起成为民谣歌手、舞者,并搬到 Khwanchai Phetroiet 之前,她结识了初恋男友 Teerapon Saensuk。直到1976年,Mon MueangNuea 将 Pueng 收为弟子,并为其改名“Pumpuang Duangjan”,在成立自己的乐队之前,Pueng 演唱了<รักไม่อันตรายและรำพึง>(爱情并不危险和令人思念)这首歌,但没有获得成功。
(《月亮歌女》中成名前的Pumpuang与其初恋情人)
ชื่อของ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เริ่มเป็นที่รู้จัก หลังจากได้รับการสนับสนุนจาก "ประจวบ จำปาทอง" และ "ปรีชา อัศวฤกษ์นันท์" ให้ตั้งวงร่วมกับ "เสรี รุ่งสว่าง" ในชื่อวง "เสรี-พุ่มพวง" แต่ที่ทำให้ "พุ่มพวง" ประสบความสำเร็จถึงขีดสุดก็หลังจาก "ลพ บุรีรัตน์" ได้แต่งเพลงแนวสนุก ๆ ให้ "พุ่มพวง" ร้อง จนทำให้ผู้ฟังสนใจเธอเป็นอย่างมาก โดยเพลงที่มีชื่อเสียงของพุ่มพวง เช่น เพลง "สาวนาสั่งแฟน", "นัดพบหน้าอำเภอ", "อื้อฮือหล่อจัง","ดาวเรืองดาวโรย", "กระแซะเข้ามาซิ" และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่า ตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2515-2534 "พุ่มพวง" ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด ด้วยน้ำเสียงหวาน ออดอ้อน และจำเนื้อร้องได้ แม้จะไม่รู้หนังสือ
在 Prachuap ChampaThong 和 Pricha Atsawaroeknan 的鼎力支持下,Pumpuang 与 Seri Rungsawang 成立了组合,名为“Seri-Pumpuang”,在此之后 Pumpuang Duangjan 的名字逐渐为人所知。但她真正名声大振,还是在 Lop Burirat 为其创作了许多风格欢快的歌曲之后,这些有名的歌曲,进一步唤起了听众对她的兴趣。例如,<สาวนาสั่งแฟน>(乡下姑娘告情郎) <นัดพบหน้าอำเภอ>(在县城见一面)<อื้อฮือหล่อจัง>(嗯哼,好帅)<ดาวเรืองดาวโรย>(万寿菊),<กระแซะเข้ามาซิ>(动一动,进来啊)和其他许多作品。可以说,1972-1991年间,Pumpuang 凭借她甜美温柔的音色,以及即使是文盲也能记住的歌词,受到了空前的欢迎。
เรื่องงานเพลง และภาพยนตร์ ถือได้ว่า "พุ่มพวง" ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่กับเรื่องชีวิตและความรัก ช่างตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง โดย "พุ่มพวง" กับ "ธีระพล แสนสุข" แฟนคนแรก ได้เลิกรากัน หลัง "พุ่มพวง" รู้ว่าแฟนของเธอปันใจให้น้องสาว แต่ก็ยังทำงานร่วมกันอยู่ จนในปี พ.ศ. 2527 "พุ่มพวง" ได้จดทะเบียนสมรสกับ "ไกรสร แสงอนันต์" และมีบุตรชาย 1 คน ชื่อ "สันติภาพ" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "สรภพ" หรือน้องเพชร ส่วน "ธีระพล" ถูกน้องชายของพุ่มพวงยิงเสียชีวิต เมื่อปี พ.ศ. 2530
在音乐、电影的演艺事业上,Pumpuang 可谓是大获成功,但在现实生活和爱情上却截然相反,在 Pumpuang 知道初恋情人 Teerapon Saensuk 竟然爱上了自己的亲妹妹后,二人最终分手,但依然一起工作。直到1984年,Pumpuang 与 Kraisorn Saenganun 登记结婚,并育有一子,名为 Santiphab,后来又改名为 Sonphob,又名 Perth。至于 Teerapon,于1987年被 Pumpuang 的亲弟弟用枪射死。
(Pumpuang Duangjan与丈夫)
ภายหลัง ปี พ.ศ. 2535 "พุ่มพวง" ป่วยด้วยโรคเอสแอลอี (SLE : Systemic Lupus Erythematosus) และมีข่าวทะเลาะกับสามี "ไกรสร แสงอนันต์" อยู่บ่อยครั้ง จน "ไกรสร" ออกมายอมรับว่า ได้ทะเลาะกับพุ่มพวงจริง ขณะที่ญาติของพุ่มพวง เชื่อว่าที่พุ่มพวงป่วยเพราะถูกทำคุณไสย จึงพา "พุ่มพวง" ออกจากโรงพยาบาลและเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลก แต่หลังจากกราบไหว้พระพุทธชินราชแล้ว "พุ่มพวง" เกิดอาการช็อกหมดสติ และเสียชีวิตในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ขณะมีอายุเพียง 31 ปี โดยในพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้น มีแฟนเพลงเดินทางไปร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ "พุ่มพวง" กว่า 100,000 คน
1992年,Pumpuang 患上了红斑狼疮,同时也有传闻说她与丈夫 Kraisorn Saenganun 多次爆发争吵,最终 Kraisorn 本人亲口承认自己的确与 Pumpuang 经常吵架。与此同时,其亲戚认为 Pumpuang 患病是被人下蛊作法诅咒,因此将她带离了医院,前往彭世洛府拜见双龙佛。但在拜佛之后,Pumpuang 出现了休克症状并失去知觉。于1992年6月13日不幸去世,享年仅31岁。在她的火葬仪式上,有超过十万名歌迷专程前来悼念 Pumpuang 的离去。
(Pumpuang 与丈夫、儿子)
หลังจาก "พุ่มพวง" จากไปแล้ว ญาติ ๆ และแฟนเพลง ยังนึกถึง "พุ่มพวง" อยู่เสมอ จึงจัดสร้างหุ่นพุ่มพวง ไว้ที่วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี และมีการจัดงานรำลึกถึงพุ่มพวง ช่วงวันที่ 13-15 มิถุนายน ของทุกปี นอกจากนี้ยังมีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "บันทึกรักพุ่มพวง" เพื่อรำลึกถึงชีวิตของพุ่มพวง รวมทั้งช่อง 7 ยังได้สร้างละครโทรทัศน์เรื่อง "ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์" โดยให้ "ต้อม รชนีกร พันธุ์มณี" รับบทเป็น "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เพื่อเล่าเรื่องราวชีวิตของ "พุ่มพวง"
Pumpuang 去世后,亲属和歌迷始终牵挂着她,因此在素攀武里府宋披侬县的Thap Kradan寺前修筑了她的塑像,而且每年6月13-15日期间,还会举行有关她的纪念活动。除此之外,为了纪念 Pumpuang 的一生,还拍摄了电影《Pumpuang 情书》。为了讲述她一生的传奇故事, 7台还推出了电视剧《民谣皇后 Pumpuang Duangjan》,剧中由 Tom Ratchaneekorn Phanmanee 扮演 Pumpuang Duangjan。
อย่างไรก็ตาม เรียกได้ว่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เป็นนักร้องลูกทุ่งที่เป็นขวัญใจของคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กถึงคนแก่ ไม่ว่าจะรวยหรือจน ซึ่งแน่นอนว่า ณ วันนี้ แม้ "พุ่มพวง" จะจากไปแล้ว แต่แฟนเพลงหลาย ๆ คน ยังคงคิดถึงบทเพลงของ "ราชินีลูกทุ่ง" คนนี้ไม่เสื่อมคลาย
无论如何,对于何种性别、哪个年龄段、是穷是富的人来说,Pumpuang 都是民谣界观众当之无愧的心头好。尽管今天 Pumpuang 离我们而去了,但许多歌迷必定仍在思念着这位“民谣皇后”的歌声,热爱始终不减。
Pumpuang Duangjan不仅是泰国民谣音乐界的传奇人物,她的人生本身也非常富有戏剧性,生在一个贫穷的家庭,不识字,每次登台前都是把歌词记在心里,成名后的她也开始学习读书写字,还自己创作了许多歌词。她的美丽、坚韧和自信打动了一代代歌迷,直到今日人们还非常思念这位才华横溢的民谣皇后,了解她,也很能帮助我们了解上世纪80年代的泰国哦!
声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自Kapoop,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。