揭开神秘的面纱—泰国人到底过不过中元节?
众所周知,泰国被誉为“黄袍佛国”,佛学的盛行也让泰国披上了一层神秘的面纱,而在中国古代,足以和“清明”媲美的一个节日—“中元节”也随着两国间的人文交流传入了泰国。关于“中元节”,相信大家或多或少都有所耳闻,那当代的泰国人究竟还过不过“中元”呢?一起来看看。
"วันสารทจีน" ตามปฏิทินทางจันทรคติ จะตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน บางครั้งเรียกว่า เทศกาล "กุ่ยเจี๋ย" หรือ "เทศกาลผี" เป็นเดือนสำคัญที่เหล่าลูกหลาน จะต้องแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว สารทจีน เป็นเทศกาลสำคัญทั้งของลัทธิขงจื๊อ พุทธศาสนา ศาสนาเต๋า และชาวบ้าน ในอดีตเป็นเทศกาลใหญ่มาก แต่ปัจจุบันลดความสำคัญลง นอกจากในวัดพุทธและวัดเต๋าแล้ว แพร่หลายอยู่ในหมู่ชาวบ้านจีนภาคใต้ ตั้งแต่มณฑลหูเป่ย อานฮุย เจ้อเจียง ลงมาจนถึงกวางตุ้ง กวางสี ยูนนาน ในหมู่ชาวจีนแคะ กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว และไหหลำ ยังคงเป็นเทศกาลใหญ่ เป็น 1 ใน 8 เทศกาลสำคัญประจำปีของจีนแต้จิ๋ว ในไทยสารทจีนเป็นเทศกาลจีนสำคัญอันดับ 2 รองจากตรุษจีนเท่านั้น
每年农历七月十五是“中元节”,有时也叫做“鬼节”。对子孙后代来说,“七月”是一个向已逝先祖表达敬意的重要的月份。“中元节”对儒、释、道以及普通民众来说,都是极其重要的节日。在古代,中元节是一个极其盛大的节日,但如今,中元节逐渐式微。除了在寺庙和道观,中国南部,包括湖北、安徽、浙江一直到广东、广西和云南的村民还在庆祝。现如今,中元节在客家村落、广东、福建、潮汕和海南地区仍十分重要,也是潮汕地区“时年八节”中的一个节日。在泰国,中元节的重要性仅次于“春节”。
สารทจีนในเมืองจีนยุคปัจจุบัน
现代中国的“中元节”
ปัจจุบันในประเทศจีนเทศกาลสารทจีนยังเหลือแต่ทางภาคใต้ แต่ไม่ค่อยคึกคักเหมือนสมัยก่อน เหลือแต่การไหว้บรรพบุรุษเป็นสำคัญ ส่วนมากไหว้ที่ศาลประจำตระกูล เพราะมีป้ายสถิตวิญญาณบรรพบุรุษรวมอยู่ที่นั่น แต่ถ้ามีบรรพบุรุษที่ยังไม่ได้ทำป้ายสถิตวิญญาณเข้าศาลก็ต้องจัดไหว้ที่บ้านด้วย การไหว้บรรพชนไหว้ช่วงสายถึงเที่ยง เนื่องจากแต่ละหมู่บ้านมีคนมากนับร้อยนับพันครอบครัว จึงหมุนเวียนกันไปไหว้ให้ทันก่อนเที่ยง
现如今,中元节仅在中国南方流传了下来,但也不胜从前般热闹,仅剩祭拜祖先,大多数人在家族宗祠里面祭拜,因为祖先的灵位都供奉在这里,但如果有先祖的灵位还没被请进宗祠还是得在家里举行祭拜仪式。
ส่วนในไต้หวัน เทศกาลสารทจีนยังคึกคักมาก ตัววันสารทจีนกลางเดือน 7 เป็นวันหยุดราชการ มีกิจกรรมอันเนื่องด้วยเทศกาลตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงสิ้นเดือน
而在台湾,中元节仍旧很热闹,“七月半”这天还是法定节假日,从月初到月末都会举办各种各样的活动。
สารทจีนในไทย
泰国的“中元节”
สารทจีนในไทยเป็นเทศกาลใหญ่คู่กับตรุษจีน 2 เทศกาลนี้แพร่หลายในไทยมาช้านาน คู่กับตรุษสงกรานต์ และสารทไทย ช่วงเวลาก็ห่างกันไม่มาก จนคนไทยก็พลอยไหว้ตามไปด้วย ด้วยเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งคือ “ไม่ให้ลูกหลานดูตาเขากิน”สารทจีนในไทยมีกิจกรรมไหว้เพียงวันเดียวคือวันกลางเดือน 7 จีน เมื่อ 30 ปีก่อนนี้ขึ้นไปส่วนมากไหว้ครบ 3 เวลา คือ เช้าไหว้เจ้า สายไหว้บรรพบุรุษ บ่ายไหว้ผีไม่มีญาติดังนี้
在泰国,中元节是仅次于春节的第二大节日,该节日流传到泰国很久了,与宋干节、泰国鬼节共存,时间挨得也很近,由于一条重要的原因“不让子孙靠看别人的脸色吃饭”,以至于泰国人纷纷一起祭拜。在泰国,中元节只有一天即七月中,30年前起,大多数人开始拜三次,分别是:早上祭神,上午祭祖,傍晚祭孤魂。
การไหว้ตอนเช้าไหว้เจ้าทั้งหมดเหมือนตรุษจีน ส่วนมากแยกไหว้หลายที่ คือที่หิ้งเจ้าในบ้านที่เรียกว่า “เหล่าเอี๊ย” ซึ่งหมายถึงเจ้าทั้งหลายที่หนึ่ง ตี่จู๋เอี๊ยคือเจ้าที่ในบ้าน ซึ่งทำเป็นศาลเล็ก ๆ วางไว้กับพื้นดินที่หนึ่ง บางบ้านไหว้ศาลพระภูมิไทย ศาลเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในชุมชนอีกด้วย แต่อย่างน้อยต้องไหว้ “เหล่าเอี๊ย” กับ “ตี่จู๋เอี๊ย” ของไหว้เหมือนตรุษจีน คือมีขนมเข่งด้วย ความจริงขนมเข่งเป็นของไหว้ประจำเทศกาลตรุษจีน เทศกาลสารทจีนไม่ต้องมีก็ได้ แต่ด้วยความเคยชินจึงกลายเป็นของสำคัญไปด้วย เว้นบางถิ่นที่มีความเข้าใจก็ไม่ใช้ขนมเข่งไหว้สารทจีน
早上像春节一样拜诸神,大多数人会在几个地方拜,在家中供奉“老爷”的托架处祭拜,“老爷”即众神中的一位,“地主爷”是一家的保护神,是一个小的神龛,供奉在某处,有些家庭也拜泰国“土地神”、神龛或村里的圣物,但不可缺少的就是拜“老爷”和“地主爷”。祭品也和春节一样有年糕,其实年糕是春节固定的祭拜品,中元节不用也可以,但由于习惯,于是就当成一种重要的物品,除了某些地区有所了解但也不在中元节用年糕。
ช่วงสายประมาณ 09.00-11.00 น. ไหว้ปู่ย่าตายาย ของไหว้คือของ 9 อย่าง และนิยมมีขนมเข่ง ขนมเทียนด้วยความเคยชิน ที่ไหว้จัดในบ้าน
上午大约9点至11点,拜长辈,祭拜品为“九大样”,并且习惯用年糕和蜡烛糕,用于在家里供奉。
ช่วงบ่ายประมาณหลังบ่ายโมงหรือบ่าย 2 โมงไปแล้ว ไหว้ “ฮอเฮียตี๋” เดิมนิยมไหว้กลางแจ้ง ต่อมาอนุโลมไหว้ในชายคาบ้านได้ แต่ต้องอยู่นอกธรณีประตู ก่อนไหว้ผู้ใหญ่จะให้เด็ก ๆ ถือธูปคนละกำ เดินไปปักตามถนนหนทางจากที่ไกลเข้ามาหาบ้าน พร้อมกับเรียกอยู่ในใจหรือออกเสียงว่า “ฮอเฮียตี๋ ขอให้ตามควันธูปมากินของเซ่นไหว้ที่บ้าน” เด็ก ๆ จะสนุกกับกิจกรรมนี้มาก แข่งกันวิ่งไปปักธูปให้ไกลที่สุดเรื่อยมาจนถึงบ้าน ของไหว้ต้องมีหลายชนิดและปริมาณมาก กับข้าวบางอย่างไหว้ทั้งหม้อ ของไหว้ทุกอย่างปักธูปดอกหนึ่งและไหว้นานจนธูปหมดดอกหรือเกือบหมดจึงเผากระดาษ จากนั้นเอาข้าวสารกับเกลือซัดชายคาบ้านเพื่อไล่ให้ผีกลับ เพราะกลัวว่าจะมีผีอยู่ต่อ เป็นภัยแก่คนในบ้าน
下午一点或两点之后,拜“好兄弟”。以前习惯在户外祭拜,后来演变为在屋檐下祭拜,但必须在屋门槛外进行。祭拜之前,大人们会让小孩每人手持一把香,边走边沿着远处的路边插香一直到家,同时还要在心里默念或说出来“好兄弟,请跟着高香来家里敬享贡品。”孩子们觉得这样的活动很有意思,赛跑着去最远的地方插香随后慢慢到家里。祭拜品必须多种多样,有时也会是整锅米饭,每一种贡品都插上一炷香,然后开始拜,直到香烬或快熄灭的时候烧纸,然后在屋檐上撒米和盐,以便驱邪,因为害怕还有鬼怪,会对家里人不吉利。
ของไหว้สารทจีน
中元节祭拜的贡品
สารทจีนไม่มีของไหว้เฉพาะเทศกาลเหมือนตรุษจีน (ขนมเข่ง) หยวนเซียว (บัวลอยน้ำขิง) ไหว้พระจันทร์ (ขนมไหว้พระจันทร์) และเทศกาลอื่นอีกหลายเทศกาล สารทจีนใช้ของไหว้เหมือนไหว้เจ้าไหว้ผีโดยทั่วไป คือ 1. ชา 2. เหล้า แสดงถึงผลเก็บเกี่ยวสมบูรณ์มีข้าวเหลือหมักเหล้าไว้ใช้จึงขาดมิได้ 3. ข้าวสวย ห้ามใช้ข้าวต้มเพราะแสดงว่ายากจนข้าวไม่พอกิน 4. ซาแซ คืออาหารประเภทเนื้อสัตว์ 3 อย่าง เช่น เป็ด ไก่ หมู หรือ ไก่ หมู ปลา หรืออาจใช้ไข่ (แทนไก่ หรือเป็ด) หมู 1 ชิ้น และปลาหมึกก็ได้ ถ้ามีศรัทธาและกำลังพออาจเป็นโหงวแซ คืออาหารประเภทเนื้อสัตว์ 5 อย่างก็ได้ 5. กับข้าวและของหวาน 6. ของที่ทำจากแป้งที่คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า “ก้วย” เช่น ขนมกุยช่าย สิ่วท้อ ของเหล่านี้แสดงว่าได้ผลเก็บเกี่ยวดี มีข้าวมาแปรรูปเป็นอาหารอื่น ของบางอย่างก็มีความหมายเป็นมงคลโดยเฉพาะ เช่น สิ่วท้อแสดงถึงความมีอายุยืน ด้วยเหตุนี้จึงนิยมใช้หมี่ในพิธีเซ่นไหว้ด้วย 7. ผลไม้ นิยมผลไม้ 5 อย่าง เรียกว่าโหงวก้วย 8. กระดาษเงินกระดาษทอง ถ้าไหว้เจ้าใช้แผ่นใหญ่ที่เรียกว่างึ่นเตี๋ย ถ้าไหว้ผีใช้แผ่นเล็กที่เรียกกิมจั้ว 9. เงินผี คือกระดาษที่ทำเป็นธนบัตรที่ใช้ในยมโลก
中元节没有像春节(年糕)、元宵节(元宵)、中秋节(月饼)或其他节假日那样有特定的贡品,中元节使用普通拜鬼神的贡品,如:1. 茶;2. 酒,代表丰收,意味着有余粮酿酒,因此或不可缺;3. 白米饭,千万不要使用粥,因为粥预示着贫穷,饭不够吃;4. 三牲,即三种肉类:鸭、鸡、猪或鸡、猪、鱼,也可以使用蛋(代替鸡或鸭)、一块猪肉或墨鱼都行。如果你信仰虔诚,也足够富裕可使用“五牲”也可以;5. 饭菜和糕点;6. 由面粉做成的一种食物,潮汕人叫“粿”,例如:韭菜粿、寿桃等。这些东西都暗示着大丰收,有多余的米加工成其他食物,有些还有特别的吉祥寓意,比如寿桃寓意长寿,因此也将“面条”用于祭拜仪式中;7. 水果,惯用五种水果,潮汕话叫做“五瓜”;8. 金箔,祭神用大号,叫“银锭”,祀鬼用小号,叫“金条”;9. 冥币,是一种用于在冥界使用的钞票。
ของไหว้นี้โดยเฉพาะผลไม้ ไม่ใช้ของที่เชื่อกันว่าไม่เป็นมงคล ส่วนมากเป็นของหรือผลไม้ที่มีชื่อพ้องเสียงหรือคล้ายกับคำที่ไม่เป็นมงคล ซึ่งแต่ละถิ่นถือต่างกันตามสำเนียงภาษา เช่น คนจีนในไทยไม่ใช้มังคุดไหว้ คนจีนแต้จิ๋วในไทยไม่ใช้มะม่วงไหว้ เพราะภาษาชาวบ้านเรียกมะม่วงว่า “ส่วย” ใกล้กับคำว่า “ซวย” ของที่มีความหมายหรือลักษณะไม่เหมาะสมก็ไม่ใช้ ตามหลักดังกล่าวในไต้หวันไม่ใช้ฝรั่ง มะเขือเทศ ลูกพลัม และน้อยหน่า ไหว้เจ้า เพราะน้อยหน่าจีนไต้หวันเรียกว่า “เซ็กเกีย” พ้องกับชื่อพระพุทธเจ้าจะนำมาไหว้เจ้า ไหว้ผีไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ควรเอามาเป็นข้อถกเถียงกันว่าของใครถูก หลักสำคัญเรื่องของไหว้ขอให้จัดด้วยศรัทธาและเข้าใจสาระ คนจีนแคะในจีนซึ่งแต่ก่อนยากจน ประหยัดจนเคยชินใช้ไก่ตัวเดียวไหว้ทุกเจ้าในวันเทศกาล ไม่ถือเป็นเรื่องเสียหาย
大多数用于供奉的水果不会用人么认为不吉祥的水果。大多数吉利的东西或水果都要有和吉祥相同或相似的音,各个地方以口音的不同而不一样。比如:在泰华人不用山竹祭拜,在泰潮汕人不用芒果祭拜,因为当地人把芒果叫做“suai”,其发音和“衰”相似;一些寓意不好或特征不符的东西也不使用。根据上述原则,在台湾,人们不用番石榴、番茄、西梅干和番荔枝祭拜,因为台湾人叫番荔枝为“sekkia”,其发音和“佛祖”相似,因此不能用于祭神祀鬼。这种事不应来争论谁对谁错,挑选祭祀用的水果最重要的原则是信仰和理解。中国的客家人以前很贫困,十分节俭,为了不浪费,他们习惯在节日里用一只鸡祭拜所有的神明。
"7 ข้อห้าม" ทำแล้วซวย
7条禁例,违者倒运
1. ห้ามแต่งงานในเดือนนี้
本月禁止结婚
2. ห้ามเดินทางบ่อยในเดือนนี้
本月禁止勤外出
3. ห้ามอยู่นอกบ้านช่วงกลางดึกในเดือนนี้
本月禁止夜不归宿
4. ห้ามซื้อ-ห้ามย้ายบ้านในเดือนนี้
本月禁止买房、搬家
5. ห้ามเริ่มงานก่อสร้างในเดือนนี้
本月禁止开工建设
6. ห้ามดำเนินการเริ่มธุรกิจในเดือนนี้
本月禁止本月创业
7. ห้ามว่ายน้ำตอนกลางคืนในเดือนนี้
本月禁止午夜游泳
如此看来,中元节在泰国也广为流传,并逐渐本土化成为华裔后代悼念先祖的一个重要节日。怎么样,你对中元节有更进一步的了解了吗?
声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自thairath、silpa-mag,图源来自视觉中国,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。