榴莲是在泰国非常常见的水果,那大家知道这种气味特殊的水果为什么会被叫“榴莲”吗?关于榴莲这个名字的由来又有什么有趣的传说呢?

ปริวัฒน์ จันทร เขียนเล่าเรื่องทุเรียนไปเมืองจีนกับซำปอกง ซึ่งเป็นคำบอกเล่าเก่าแก่ว่า คำว่า “ทุเรียน” ในภาษาจีนกลาง เจิ้งเหอ เป็นคนตั้งชื่อว่า “หลิวเหลียน” หรือสำเนียงแต้จิ๋วออกเสียงว่า “โถวเลี้ยง” แปลว่า ความหวนอาลัย หมายถึงผู้ใดที่ไม่เคยรับประทานทุเรียนมาก่อน ลองได้รับประทานเข้าก็จะหลงอาลัยในรสชาติจนยากที่จะลืมเลือนและไม่อยากกลับบ้าน
Pariwat Chanthon曾经写过关于郑和和榴莲在中国的故事,故事中讲到,Durian在中文里发音为“榴莲”,这个名字是郑和为其取的,潮州口音的发音大约是“Tow Liang”,意思是“流连忘返”,意思是那些以前从未尝试过榴莲的人,一旦品尝,就会因其美味而感到无法忘怀,不愿回家。

เชื่อกันว่าผลไม้ทุเรียนนี้ชาวจีนเพิ่งรู้จักครั้งแรกในสมัยราชวงศ์หมิง โดยลูกเรือของเจิ้งเหอที่ได้ลิ้มลองแล้วติดใจนำกลับไปเล่าขานให้คนที่เมืองจีนฟังกัน ชาวจีนแต้จิ๋วในประเทศไทยมักเล่าให้ลูกหลานฟังว่า คำว่า “ทุเรียน” นั้นชาวจีนเรียกว่า “ซำปอกงไส้” หรือ อาจมของซำปอกง?!
相传,榴莲在明朝时期是首次为中国人所知,当时来自郑和的船员品尝了榴莲后,深深迷恋它的味道,并将给其他中国人听。在泰国的潮州人往往会跟自己的后代说榴莲就是中国人说的“三宝公粪渣”。


กล่าวคือ เมื่อเจิ้งเหอได้เดินเรือมาค้าขายในสยามนั้น ระหว่างทางที่ได้ไปเดินเที่ยวชมตามหมู่บ้าน ท่านเกิดปวดท้องหนัก เมื่อถ่ายแล้วจึงได้นำก้อนอาจมนั้นห่อใบไม้ นำปีนขึ้นไปแขวนไว้บนกิ่งไม้
说是在郑和前往泰国进行贸易时,在途中游览村庄,突然感到严重的腹痛。于是,他在附近找了一棵树,排泄后用叶子将自己的粪便包起来,然后将这个包裹挂在树枝上。


บังเอิญในขณะนั้นมีชาวบ้านที่ทราบว่าซำปอกงเดินผ่านมา จึงได้มาขออาหารจากเจิ้งเหอที่ชาวจีนเชื่อว่าท่านเป็นผู้ที่มีวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก จึงได้ชี้ขึ้นไปบนต้นไม้ บอกว่าให้ปีนขึ้นไปบนนั้น ข้างบนมีทุเรียนอยู่
与此同时,恰巧当地的村民了解到了郑和正在路过,村民于是前来请求郑和给些食物,因为村民相信他的言语是拥有神力的。于是郑和指向了树,让他爬上树,上面有榴莲。


ชาวบ้านคนนั้นจึงเชื่อ แล้วปีนขึ้นไปแกะห่ออาจมออกมาดู พบว่าข้างในเป็นผลทุเรียนสีเหลืองที่ส่งกลิ่นอันหอมหวนชวนรับประทานไปในพลัน!
于是,那位村民便相信了他的话,爬上树打开了包裹,发现里面装着一颗金黄色的榴莲。这颗榴莲散发着浓郁的香气,诱人地邀请着人们品尝。


ฉะนั้นใครที่ไม่ชอบกลิ่นของทุเรียนที่หอมฉุน ก็มักจะอ้างว่าทุเรียนมีกลิ่นเหม็นเหมือนขี้ซำปอกง
所以,不喜欢榴莲特殊香气的人就会说榴莲有郑和粪渣的味道。


不知道看了这个传说会不会影响大家看到榴莲的食欲。

 

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自silpa-mag,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。