窥探不停变化发展的泰语,礼貌语尾词是何时开始使用的?
如果说到语言的变化发展,泰语一定是一种生命力极强的语言,因为它不断跟随时代进行更新,尤其是新的词汇层出不穷,“ครับ”和“ค่ะ”这两个表示礼貌的语尾词就是近代才出现的词汇,接下来就让我们一起来了解一下,这两个词到底是在什么契机下才产生的!
“ภาษาไทย” คือภาษาที่ไม่มีวันตายเพราะเป็นภาษาที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีพัฒนาการการสื่อสารทั้งรูปแบบอักษรและการพูดมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนถึงปัจจุบันก็เกิดคำศัพท์แปลกใหม่ขึ้นมาเสมอและวิธีการพูดก็เปลี่ยนไปตามสมัยเช่นเดียวกัน
“泰语”是一种永不消亡的语言,因为它会不断演变和发展。从古至今,泰语的书写和口语形式都在不断变化,总有新的词汇产生,表达方式也随着时代的变 迁而改变。
ผู้ที่เคยศึกษาเอกสารเก่า ๆ ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของภาษาไทยได้ชัดเจน เช่นคำว่า “เปน” ซึ่งปัจจุบันจะสะกดว่า “เป็น” และยังมีคำอื่นอีกมากที่เลิกใช้หรือเปลี่ยนใช้คำอื่นแทน ส่วนวิธีการพูดในยุคนี้คงไม่มีใครพูดว่า “เพลานี้กี่โมงยามแล้ว” หรือแม้แต่ในยุคภาพยนตร์ฟิล์มไทย (ในยุคมิตร-สมบัติ) ที่นิยมใช้คำว่า “กัน” ซึ่งเป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 ใช้แทนตัวผู้พูดเพศชายพูดกับคู่สนทนาในทำนองกันเอง และในปัจจุบันคำนี้ก็แทบเลือนหายไปแล้ว
研究过旧文献的人会明显看到泰语的变化。例如,“เปน”这个词,如今拼写为“เป็น”。还有许多词汇已经被弃用或替换。在现代,几乎没有人会说“เพลานี้กี่โมงยามแล้ว”(现在几点了)。即使是在泰国电影(Mitr-Sombat时代)中,使用“กัน”作为男性第一人称代词与对话者亲切交谈的情况,如今也 几乎消失了。
ในยุคที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีการเปลี่ยนแปลงภาษาไทยขนานใหญ่เพื่อขานรับนโยบาย “รัฐนิยม” เพื่อเสริมสร้างความเป็นไทย ทั้งปรับวิธีการสะกด ลดทอนการใช้ตัวอักษรบางตัว และออกประกาศให้ประชาชนเปลี่ยนวิธีการใช้คำศัพท์ในภาษาไทย
在銮披汶·颂堪担任总理期 间,泰语也发生了巨大的变化,以响应“国家政策”并增强泰国文化认同。这次语言改革包括修改拼写、减少字母使用,并发布公告要求公众改变泰语的使用方式。
“กรรมการส่งเสิมวัธนธรรมภาสาไทย” ให้เหตุผลถึงเรื่องการปรับปรุงตัวอักษรว่า “สมควนจะปรับปรุงตัวอักสรไทยให้กระทัดรัดเพื่อได้เล่าเรียนกันได้ง่ายยิ่งขึ้น ได้พิจารนาเห็นว่าตัวสระและพยัญชนะของภาสาไทยมีอยู่หลายตัว ที่ซ้ำเสียงกันโดยไม่จำเป็น ถ้าได้งดใช้เสียบ้างก็จะเป็นความสะดวกไนการสึกสาเล่าเรียนภาสาไทยไห้เป็นที่นิยมยิ่งขึ้น”
“泰国语言文化推广委员会 ”解释了这些字母改革的原因,认为“有必要简化泰国语言字母,以便更容易学习。经过审查,发现泰语中有许多元音和辅音是重复的,如果能够减少使用,将更有助于学习泰语,使其更受欢迎。”
รัฐบาลจึงออก “ประกาสสำนักนายกรัถมนตรี เรื่องการปรับปรุงตัวอักสรไทย” ลงวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 ให้ตัดพยัญชนะเหลือ 31 ตัว เช่น ตัด ฐ.ฐาน เปลี่ยนใช้ ถ.ถุงแทน (ฐาน-ถาน, รัฐ-รัธ) และตัดสระ ใ, ฤ, ฤา, ฦ, ฦา ออกไป
政府因此发布了“总理府公告关于泰语字母改革”,日期为1942年5月29日,将辅音减少到31个,例如取消“ฐ.ฐาน”(th. than)并用“ถ.ถุง”(th. thung)代替,同时取 消元音“ใ, ฤ, ฤา, ฦ, ฦา”。
ยกตัวอย่างคำที่ปรากฏในเอกสารราชการสมัยนั้น เช่น วิเสส บุรุส พรึสภาคม ปรึกสา ภาสาไทย โคสนา ปติเสธ ประกาส คนะรัถมนตรี ฯลฯ
当时的官方文件中出现了一些词汇,例如“วิเสส”(特别)、“บุรุส”(人)、“พรึสภาคม”(五月)、“ปรึกสา”(咨询)、“ภาสาไทย”(泰语)、“โคสนา”(广告)、“ปติเสธ ”(否认)、“ประกาส”(公告)、“คนะรัถมนตรี”(内阁)等。
ส่วนการเปลี่ยนวิธีการใช้คำศัพท์ในภาษาไทยนั้นมีปรากฏใน “ประกาสสำนักนายกรัถมนตรี เรื่องวางระเบียบคำแทนชื่อ และคำรับ คำปติเสธ” ลงวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2485 อันสืบเนื่องจากการใช้สรรพนามของประชาชนที่มีหลากหลาย รัฐบาลจึงต้องการให้เป็นแบบแผนเหมือนกันทั้งหมดคือ
至于泰语词汇使用方式的变化,见于1942年6月22日发布的“总理府公告关于名称和回答方式的规范”。原因是当时人们使用的代词种类繁多,政府希望统一使用 规范:
สรรพนามบุรุษที่ 1 ให้ใช้คำว่า ฉัน (เอกพจน์) เรา (พหูพจน์)
第一人称代词使用“ฉัน”(单数) 和“เรา”(复数)
สรรพนามบุรุษที่ 2 ให้ใช้คำว่า ท่าน (เอกพจน์) ท่านทั้งหลาย (พหูพจน์)
第二人称代词使用“ท่าน”(单数)和 “ท่านทั้งหลาย”(复数)
สรรพนามบุรุษที่ 3 ให้ใช้คำว่า เขา (เอกพจน์) เขาทั้งหลาย (พหูพจน์)
第三人称代词使用“เขา”(单数) 和“เขาทั้งหลาย”(复数)
สรรพนามเรียกสิ่งของ ให้ใช้คำว่า มัน (เอกพจน์) พวกมัน (พหูพจน์)
指称物品使用“มัน”(单数)和“ พวกมัน”(复数)
ส่วนคำตอบรับให้ใช้คำว่า “จ้ะ” คำปฏิเสธให้ใช้คำว่า “ไม่”
回应词使用“จ้ะ”(是),否定词 使用“ไม่”(不是)。
ต่อมา ปรากฏว่าคำตอบรับและปฏิเสธไม่เป็นที่นิยมของประชาชน จึงออกประกาศใหม่อีกฉบับ ลงวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2486 ระบุว่า คำตอบรับผู้ชายให้ใช้ “ครับ” คำตอบรับผู้หญิงให้ใช้ “ค่ะ” คำปฏิเสธให้ใช้ “เปล่า”
然而,这些回应词并不受 欢迎,因此在1943年8月24日发布了新公告,规定男性使用“ครับ”(是),女性使用“ค่ะ”(是),否定词使用“เปล่า”(没有)。
นอกจากนี้รัฐบาลยังออกประกาศให้เปลี่ยนมาใช้ “เลขไทย” แทน “เลขอาราบิก” ตามประกาศ “เรื่องการใช้เลขสากลเป็นเลขไทย” ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485
此外,政府还发布公告,要求 使用“泰国数字”代替“阿拉伯数字”,根据1942年11月29日发布的“关于使用泰国数字的公告”。
เมื่อจอมพล ป. กราบบังคมทูลลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 เนื่องจากสภาไม่อนุมัติพระราชกำหนดกำหนดระเบียบราชการบริหารนครบาลเพ็ชรบูรณ์และพระราชกำหนดจัดสร้างพุทธบุรีมณฑล นายควง อภัยวงศ์ จึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
当銮披汶于1944年7月24日因 议会不批准关于碧差汶府和佛教城的法律而辞职后,Khuang Aphaiwong成为新总理。
นายควงเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487 ไม่นานจากนั้นจึงได้เริ่มการ “ลบล้าง” รัฐนิยมหรือประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยจอมพล ป. ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องวัฒนธรรมออกไปแทบทั้งหมด กล่าวคือ
Khuang Aphaiwong于1944年8月1日上任后不久,开始废除銮披汶时期的国家政策公告,特别是与文化相关的几乎所有公告。例如:
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2487 ให้ยกเลิกประกาศ เรื่องวางระเบียบคำแทนชื่อ และคำรับ “คำปติเสธ” ระบุแนวทางปฏิบัติว่า “ให้ใช้ระเบียบปติบัติที่นิยมกันมาแต่เดิม”
1944年9月5日的总理府 公告,废除“关于名称和回应词的规范”,恢复“以前的习俗”
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ให้ยกเลิกประกาศ “เรื่องการปรับปรุงตัวอักสรไทย และเรื่องการใช้เลขสากลเป็นเลขไทย”
1944年11月2日的总理府 公告,废除“泰语字母改革”和“使用泰国数字的公告”
นอกจากนี้ยังมีประกาศของรัฐบาลควง อภัยวงศ์ อีกฉบับหนึ่ง ลงวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2488 ให้ยกเลิกประกาศของรัฐบาลจอมพล ป. เรื่องการใช้คำว่า “วันเกิด”
1945年1月12日的政府公告 ,废除1941年9月19日銮披汶政府的公告,恢复“生日”一词的传统使用
ย้อนไปเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2484 รัฐบาลจอมพล ป. เล็งเห็นว่ามีการใช้คำในทำนองเดียวกับความหมายว่า “วันเกิด” ซ้ำกันมาก จึงออกประกาศให้ทุกคนใช้คำว่า “วันเกิด” เว้นแต่พระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีให้ใช้ว่า “วันเกิดใน……..”
追溯到1941年9月19日,銮披汶政府注意到“วันเกิด”(生日)一词的类似用法过多,因此发布公告,要求所有人统一使用“วันเกิด”一词,只有国王和王后可以使用“วันเกิดใน……”的特定表达。
ประเด็นเรื่อง “วันเกิด” นี้เป็นเรื่องอ่อนไหวพอสมควร ต่อมา ในช่วงรัฐบาลควง อภัยวงศ์ ออกประกาศลงวันที่ 12 มกราคม พุทธศักราช 2488 เนื้อหาในประกาศระบุให้ยกเลิกประกาศเดิมของจอมพล ป. โดยให้เหตุผลว่า กรณีเปลี่ยนแปลงการใช้คำ “วันเกิด” นั้น “เป็นการไม่เหมาะสม และไม่ตามคตินิยม”
銮披汶1941年9月19日发布公告,要求所有人使用“วันเกิด”(生日)一词,只有国王和皇后可以使用特定表达。这个问题在文化上非常敏感,因此1945年1月12日Khuang政府废除了这个公告,认为其“不合适和不符合习俗”。
ประกาศของรัฐบาลควง อภัยวงศ์ ที่ยกเลิกประกาศของรัฐบาล จอมพล ป. ทั้ง 3 ฉบับ จึงเท่ากับ “ลบล้าง” การปรับปรุงภาษาไทยทั้งแง่การพูดและการเขียนไปจนแทบหมดสิ้น ภายหลังเมื่อ จอมพล ป. กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใน พ.ศ. 2491 ก็ไม่ได้นำเรื่องการปรับปรุงภาษาไทยมาประกาศใช้อย่างที่เคยทำ จึงอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า การจัดการภาษาไทยในช่วงรัฐนิยมของจอมพล ป. เป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่แฝงนัยยะและจุดประสงค์ทางการเมืองหรือไม่
Khuang政府废除 了銮披汶政府的所有相关公告,几乎完全恢复了泰语的原貌。銮披汶1948年重新上任后,也没有再宣布任何泰语改革。因此,銮披汶时期的泰语改革带有文化和政治的意图。
การปรับปรุงภาษาไทยในยุคจอมพล ป. ยังสะท้อนว่า “ภาษาไทย” คือภาษาที่ไม่มีวันตาย สามารถปรับเปลี่ยนได้แต่ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานการณ์และต้องใช้ระยะเวลาในการปรับเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม อิทธิพลการปรับปรุงภาษาไทยในยุคจอมพล ป. ก็คงส่งผลกระทบต่อสังคมอยู่ไม่น้อย เช่น คำตอบรับ “ครับ” “ค่ะ” ที่กลายเป็นแบบแผนคำสุภาพที่ใช้สนทนากันจนถึงทุกวันนี้
銮披汶时期的泰语改革反映了“泰语”是一种永不消亡的语言,可以根据情况适应和变化。尽管如此,銮披汶时期的改革对社会产生了影响,例如“ครับ”和“ค่ะ”成为现代泰语的礼貌用语。
大家还注意到现代泰语和以前相比有哪些变化吗?
声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自silpa-mag,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。