泰国诗人蓬拍汶及其诗作《葵花》
蓬拍汶(นาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ Naowarat Pongpaiboon),泰国诗人艺术家和人权活动家,他的诗作蕴含着极高的审美价值,好比解读泰国诗的钥匙。擅长吹奏竖笛的蓬拍汶,有泰国“民族艺术家”之誉,他往往以富于音乐性的诗语描绘自然风光和民情风俗,佛家的慧见和悲悯渗透其中。
蓬拍汶的诗歌继承了泰国古典诗歌的传统,同时受到诗僧寒山等中国诗人的影响。作为一个“旅游天国”的泰国,如果以后现代的视角来分析,《葵花》的四节诗彷佛是一个微型三部曲:前现代泰国农村的田园诗,现代社会的失乐园和后现代的复乐园之梦。
《葵花》第三部曲即最后一节,强调了葵花与太阳的寓意。据该诗英译注释,泰国语的“葵花”一词,字面意思是“不动摇的坚忍”,“诗人把葵花视为一种特殊的花,一种能够挺身抵抗和忍耐灼热阳光的花”。诗人并没有把太阳描绘为纯然的毒日,而是一轮闪耀金光的太阳,同样有其内在的佛性。而坚忍如葵花的“我们的心”,则具有金光闪耀般的梦想的力量。
翻译:傅正明
แผ่วลมผ่านโรยเหมือนโปรยกลิ่นปรุงดอกฟางหอมลอย
ดอกหญ้าดาววับวาวทางเกลื่อนเหมือนดังหยาดพลอย
แตะนิดต้องน้อยราวมณีร่วงพรูพัดพรายลงดิน
จะอยู่แดนไหนสุดฟ้าแสนไกลคนึงถึงถิ่น
ด้าวแดนแผ่นดินที่เราจากมาเนิ่นนานแสนนาน
ดอกหญ้างามงดงามดังก่อนหรือรอนร่วงราน
แดดร้อนดินแล้งลมระงมแผ้วพานบ้านนาป่าเขา
ทุ่มกายทุ่มใจเข้าโหมแรงไฟหัวใจแรงเร่า
ยิ่งสร้างยิ่งทำระกำหนักเบาดิ้นรนหนทาง
เจ้ามิ่งขวัญยิ่งวันยิ่งเดือนยิ่งเลือนยิ่งราง
ทอดทิ้งทุ่งร้างวันและวันผ่านเยือนเหมือนเดินทางไกล
ตะวันส่องแสงสาดแสงลงมาทาบทาทางใหม่
ร่วมจิตร่วมใจก้าวไปก้าวไปฝ่าภัยร้อยพัน
一顷良田稻花开,阵阵和风逐香来。
一径野花如银汉,繁星沾露吐春晖。
一串珠宝映眼帘,千颗万颗光烨烨。
一路轻踏露珠碎,散作满地细雨霏。
天尽头,地角落,何处心中无祖国?
故园久别思野花,草木亲情已凋谢?
酷暑热气正炽热,土地干渴已龟裂。
森林萧索群山秃,热风吹来如号哭。
激情充盈全身心,内在之火如燃烛。
愈造房舍愈稼穑,愈不御寒不果腹。
人生之路多辛苦,摇摇晃晃步彳亍,
民心低落精气竭,日夜亏损如寒月。
少壮无力弃田舍,飘蓬远方不知处。
黑暗小径无出路,太阳今又照通衢。
再次集合大队伍,敢于挑战走险途。
呼朋唤友心意齐,葵花无惧耐烈日。
但求同在金光里,梦想旺盛无绝期。