泰国著名小说:《佳媞的幸福》第十四回(下)
“แม่ลนลานเก็บของใส่ตะกร้า สวมหมวกให้หนู จูงหนูลงบันได ลมพัดแรงขึ้นทุกที เรือไม่อยู่นิ่ง โคลงเคลงไปมา แม่วางหนูในเรือ แล้วหันไปปลดเชือกล่ามเรือ แต่มือของแม่...แม่ยิ่งรีบก็ยิ่งงุ่มง่าม แม่ก้าวขึ้นจากเรือไปแก้มปมเชือกให้ถนัดขึ้น พอเชือกหลุดจากหลักก็หลุดจากมือแม่ด้วยแม่ตกใจรีบคว้าไม้พายเพื่อยึดเรือไว้ แม่กะจังหวะผิดหมดของง่าย ๆ แม่ก็ทำไม่ได้ แล้วเรือก็ลอยห่างจากท่าตามระลอกคลื่นในน้ำ เรือที่มีหนูนั่งอยู่คนเดียว”
กะทิมองเห็นภาพทุ่งปริ่มน้ำไกลสุดตากลายเป็นทะเลบ้ายามลมพายุพัด ฟ้าคงไม่สว่างใสเหมือนยามเที่ยวทุ่งกับตาหมู่เมฆหนาคงเข้าครอบคลุม ทุกอย่างรอบตัวเป็นสีเทาเสียงฟ้าลั่นครืนคงดังมาจากที่ไกล ผสมผสานกับเสียงลมและเสียงร้องของแม่
“แม่พยายามกุมสติ ร้องบอกให้หนูนิ่ง ๆ แม่กลัวว่าหนูจะตกใจ ลุกขึ้นโผมาหาแม่แล้วเรือจะเล่ม แม่รู้แล้วว่าตัวเองไม่อยู่ในสภาพเหมือนก่อน แม่ไม่มีทางกระโดดลงน้ำไปอุ้มหนูขึ้นมาได้ แต่ไม้พายที่แม่พยายามยื่นจนสุดแขนไปยึดเรือกกลับมา ทำได้แค่แตะถูกตัวเรือ แขนของแม่ไม่มีแรงพอจะลอกเรือสู้แรงลมน้ำได้ แล้วไม้พายก็หลุดมือหล่นน้ำไปอีก
“แม่เหมือนบ้า ฝนเทลงมาเหมือนฟ้ารั่ว แม่ร้องตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าให้หนูนั่งนิ่งๆ แม่ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำยังไงดี แม่ร้องไห้แข่งกับฝน โกรธตัวเอง โกรธฝน โกรธฟ้าที่สำคัญคือ กลัวจนเหมือนหัวใจหยุดเต้น แม่ร้องหาบแก้ม หวนใครก็ได้ช่วยที ช่วยลูกของแม่ด้วย แม่ตะเบ็งจนสุดเสียงทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีทางที่ใครจะได้ยิน ต่อให้ไม่มีเสียงฝนฟ้าคะนองแบบนี้
“แล้วแม่ก็สวดมนต์อยู่ในใจ ทุกคาถาที่ยายเคยสอนเท่าที่นึกได้ สวดมนต์แล้วก็อธิฐาน จะเรียกว่าบนบานก็ได้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าอภินิหารมีจริง ขอให้ลูกของแม่ปลอดภัยแม่ยอมแลกทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ คนทั่วไปคงอธิษฐานเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก แต่ชีวิตของแม่คงแลกอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ในเมื่อแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว ฟ้าผ่าเปรี้ยงเหมือนรับรู้เมื่อแม่อธิษฐานว่า ถ้าลุกปลอดภัย แม่จะไม่แตะต้องตัวลูกอีกเลย แม่จะไปให้ไกลจากลูก ไม่ทำให้ลูกต้องตกอยู่ในอันตรายอีกแล้ว”
น้ำตาไหลอาบแก้มแม่สะอื้นจนตัวโยน กะทิจับมือของแม่มาจูบ มาแตะแก้มตังเอง ยกแขนแม่ให้โอบรอบคอของกะทิไว้ กะทิกอดแม่ไว้แน่น แม่ซบหน้าลงกับแก้มของกะทิ เนื้อตัวของแม่เย็นชืด กะทิพร่ำกระซิบว่า กะทิอยู่ตรงนี้ อยู่กับแม่ แล้วเราสองคนจะไม่แยกจากกันอีกด
อกสั่นทมร่วงลงพื้นอยู่นอกหน้าต่าง เหมือนทนรับรู้ความทุกข์ระทมของดวงใจสองดวงนี้ไม่ไหว
中文详解:
“妈妈再一次作出了错误的决定,决定在亭子里等雨停,然后再慢慢赶回家。但妈妈见亭子的屋顶都已经很破旧,怕不能避雨,再看看天边的雨云,似乎还很远,便觉得还有足够的时间可以离开。如果赶不回去,就在能够走到的那户人家避雨。
“慌忙中妈妈收起篮子,给你戴上小帽子,带着你走下了楼梯。风刮得越来越大,小船也不停地摇晃,妈妈把你放进小船,然后去解开栓船的绳子。但妈妈的手……妈妈的手越是慌乱就越是笨拙。妈妈去解拴住小船的绳结,恰巧就是在这个时候,解下来的绳子从妈妈的手里滑落下去。妈妈很恐慌,于是顺手抓过船桨,想用船桨把小船扒回来。但令妈妈没想到的是,妈妈想错了,就连这么简单的事情妈妈也已经做不到了。船随着破浪越漂越远,船里只坐着你一个人。”
佳媞仿佛看见水面的尽头就是大海,风发疯一样地刮着,天空也许不会像和外公一起出游时那样晴朗,厚厚的云层遮盖住天空,身边的一切都变成了灰色。远处传来天空的巨吼,伴随着风声和妈妈的哭叫。
“妈妈努力让自己冷静下来,大声对你喊着,让你在原处好好坐着,怕你因为害怕起身朝妈妈这边走过来,船就会翻掉。妈妈知道,现在妈妈已经不如从前了,不可能跳进水里把你从船里抱出来。但妈妈用尽全力有船桨去够小船也只是能刚刚触及到船身而已。妈妈的手臂没有力气了,不足以同风和水相较量。后来船桨也从妈妈的手里滑落下去。
“妈妈感觉自己几乎要疯掉了,雨水疯狂的倾泻,就好像天空破了洞。妈妈大声叫喊着让你好好坐着。此时妈妈真的不知道应该做什么好,只是很恨自己,恨这雨,恨这天。更重要的是,心脏似乎都将因为恐惧而停止跳动。妈妈的喊声很凄凉,要是有谁能帮一下也好,帮帮我的孩子,妈妈喊得直到喊不出声来,纵使知道谁也听不见,即使只有雨声和疯狂的闪电。
“妈妈默默祈祷,念着那些所能想到的外婆教的经文。如若真的实现了,只希望妈妈的孩子能够平安无事,妈妈愿意用任何东西去交换。但就算用生命去交换,恐怕也不能够了。天空发出‘砰’的巨响,仿佛是明白了似地说道,如果孩子能够平安,你也不能再碰这孩子了。妈妈会走得远远的,不会再让自己的孩子处于危险中。”
泪水流满了整个脸颊,妈妈的身体因为抽泣而颤抖着。佳媞抓住妈妈的手贴在脸颊上亲吻着,举起妈妈的手臂让妈妈搂抱着佳媞。佳媞紧紧抱着妈妈,妈妈把脸贴着佳媞的脸颊上。妈妈的皮肤碰上去有些凉。佳媞对妈妈耳语道,佳媞在呢,佳媞就在这里陪着妈妈,以后我们两个再也不要分开了。
窗外的鸡蛋花纷纷飘落,像是再也不能默默忍受两颗心所承受的哀伤了。